28 พฤศจิกายน 2551

“คลองพระปรง” บริเวณจัดกิจกรรมนักสืบสายน้ำ




ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้วได้สำรวจคลองพระปรง อ.เมือง จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมสถานที่จัดกิจกรรมนักสืบสายน้ำเพื่อการอนุรักษ์น้ำ อนุรักษ์ป่า ตามโครงการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องน้ำ – ธรรมชาติ – ชีวิต ระหว่างวันที่ 18 -21 ธันวาคม 2551 ให้แก่ครู กศน. และนักศึกษา กศน. ในจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง – ปราจีนบุรี และ โตนเลสาป เพื่อการขยายผลในพื้นที่ 4 จังหวัดในโอกาสต่อไป

(ภัฑรกิจ : ถ่ายภาพ)

27 พฤศจิกายน 2551

กาสรกสิวิทย์โรงเรียนกระบือแห่งแรกของโลก


ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 33 ถนนสุวรรณศร ที่ผ่านจังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี เข้าสู่จังหวัดสระแก้ว ก่อนถึงตัวจังหวัดสระแก้วประมาณ 5 กิโลเมตรขวามือเป็นที่ตั้งโรงเรียนกาสรกสิวิทย์โรงเรียนสอนกระบือแห่งแรกของโลก ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ณ ห้วงเวลานี้เป็นระยะเวลาเริ่มต้นการดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงบริเวณสถานที่
จากการได้เข้าเยี่ยมชมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ซึ่งดูเป็นคนเก่งมีความคล่องตัวสูงทำให้ทราบว่าโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสอนกระบือให้สามารถกลับมาไถนาได้อีกครั้ง ซึ่งเขาเคยทำหน้าที่นี้หลายร้อยปีมาแล้ว แต่คนทอดทิ้งกิจกรรมเช่นนั้นไปเสีย และอีกวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อสอนคนให้รู้จักพากระบือไปไถนาได้ เหตุเพราะผู้คนปัจจุบันลืมวิธีใช้กระบือไถนาไปแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบบอกกล่าวอีกว่าในพื้นที่ของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์แบ่งเป็นสามส่วน
ส่วนแรกเป็นส่วนการต้อนรับผู้มาเยือนทั้งการประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูล ส่วนที่สองเป็นส่วนการสอนการเรียนรู้ของกระบือและคน ส่วนที่สามเป็นส่วนแสดงองค์ความรู้ตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ในเบื้องต้นได้กำหนดหลักสูตรคร่าว ๆ ไว้ 3 หลักสูตร หลักสูตรสอนกระบือให้ไถนา 3 วัน หลักสูตรสอนคนให้พากระบือไถนา 10 วัน และหลักสูตรที่สอนทั้งกระบือและ คนทำนา 15 วัน
ในเวลาอันใกล้นี้เราอาจได้เห็นวิถีไทยวิถีเกษตรอย่างยั่งยืน ที่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันแลกเปลี่ยน การลงแขกลงแรงและรอยยิ้มหนึ่งเดียวในโลกอีกครั้งหนึ่ง

26 พฤศจิกายน 2551

กะเหรี่ยงคอยาวที่แม่ฮ่องสอน


“กะเหรี่ยงคอยาว” เป็นชนเผ่ากะเหรี่ยงกลุ่มหนึ่งที่มีประเพณี วัฒนธรรมไม่เหมือนกะเหรี่ยงกลุ่มอื่นกล่าวคือ วัฒนธรรมการนำปลอกทองเหลืองสวมไว้รอบคอและเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามอายุ บางคนสวมมากกว่า 25 ปลอก จึงทำให้คอดูยาวกว่าปกติ (คอยาวกว่าปกติจริงๆ) การสวมปลอกคอทองเหลืองนั้นนิยมทำเฉพาะผู้หญิงโดยเริ่มสวมตั้งแต่เด็ก เป็นความสมัครใจของผู้สวมเองที่จะรักษาวัฒนธรรมนี้ ไม่มีการบังคับ แต่เมื่อตัดสินใจสวมปลอกทองเหลืองแล้วต้องสวมไปตลอดชีวิต
จากการได้สัมภาษณ์พูดคุยกับกะหรี่ยงคอยาวที่หมู่บ้านห้วยปูแกง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้เข้าใจวิถีชีวิตของกะเหรี่ยงคอยาวมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แม้ว่าผู้หญิงที่สวมปลอกทองเหลืองจำนวนหลายปลอกก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมีชีวิตคู่ มีครอบครัวและมีบุตรแต่อย่างใด ปลอกทองเหลืองที่สวมใส่นั้นกะเหรี่ยงคอยาวถือว่าเป็นเครื่องประดับ เขาจึงทำความสะอาดทุกวันให้สวยงาม จึงดูเหมือนว่าปลอกทองเหลืองสุกใสเหมือนทองคำแท้ กะเหรี่ยงคอยาวมีนิสัยรักสงบ เอื้ออารี ยิ้มแย้ม เป็นมิตร สุภาพ
แม้ว่าผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วโลกเพื่อเยี่ยมเยือนกะเหรี่ยงคอยาว อาจนำพาวัฒนธรรมต่างๆ มาเพื่อให้เขาได้พบได้เห็น แต่กะเหรี่ยงคอยาวยังคงรักษาวัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมของตนไว้ด้วยความเชื่อมั่นในตัวตนที่ไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ปฏิเสธความเจริญ รู้จักใช้ Internet เพื่อการศึกษาสืบค้น ใช้ Solar Cells เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
สรุปว่า มนุษย์ทุกผู้คนที่อยู่ใกล้ธรรมชาติ อาจเข้าใจดีว่าความเจริญสักเท่าใด สุดท้ายย่อมกลับคืนสู่ธรรมชาติดังเดิม

เสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องน้ำ ธรรมชาติและชีวิต


ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว Start project ใหม่ เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ เรื่อง น้ำ-ธรรมชาติ-ชีวิต กลุ่มเป้าหมายได้แก่ ครู กศน. และนักศึกษา กศน. ของทุกอำเภอในสี่จังหวัดที่อยู่ลุ่มน้ำบางปะกง – ปราจีนบุรี และโตนเลสาป ได้แก่ นครนายก – ปราจีนบุรี – สระแก้ว และ ฉะเชิงเทรา จำนวน 80 คน ในระหว่างวันที่ 18 – 21 ธันวาคม 2551 กิจกรรมประกอบด้วย
1. ฝึกการใช้เทคนิคการเสวนา (Dialogue) และการใช้เครื่องมือบันทึกแผนภูมความคิด (Mind mapping) เพื่อทำงานในชุมชน
2. ฝึกอบรมการเป็นวิทยากรนักสืบสายน้ำโดยวิทยากรจากลุ่มน้ำเมืองตรัง ซึ่งมีประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมในพื้นป่า ฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส
3. กิจกรรมกลางคืนดูดาว เช้าดูนก สายดูผีเสื้อ จากวิทยากรเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญ เช่น อาจารย์สินธุยศ จันทร์สาขา ซึ่งถ่ายภาพผีเสื้อและเขียนคู่มือผีเสื้อที่ปางสีดา
4. กิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง น้ำ-ธรรมชาติ-ชีวิต
เป้าหมายเพื่อให้ครู กศน. และ นักศึกษา กศน. ในแต่ละจังหวัดได้ขยายผลในชุมชนภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว

24 พฤศจิกายน 2551

เจ้ารุ้งตัวอ้วน



ช่วงนี้ลมหนาวเริ่มพัดโชยมา ทำให้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลจาก วสันต์ฤดู เข้าสู่ เหมันต์ฤดู (จากฝนก็เข้าสู่หนาว) และก่อนที่ความคิดจินตนาการจะไปไกลกว่านี้ พลันก็ได้ฉุกคิดขึ้นมาว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งเจอเหตุการณ์หนึ่งซึ่งคิดว่าทุกคนอาจเคยเจอเช่นกัน แต่บางครั้งอาจไม่บ่อยนัก“รุ้ง” คือ สิ่งที่เป็นนางเอกของเหตุการณ์คราวนี้ เธอไม่ใช่ผู้หญิง หากแต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสะท้อนของแสงแดดเข้ากระทบละอองเม็ดฝนที่เป็นก้อนกลมๆ เล็กจนบางครั้งตาของเราอาจมองไม่ถนัด เมื่อแสงแดดที่ทุกคนมองเห็นเป็นลำแสงสีขาวตกกระทบที่ละอองเม็ดฝนแล้ว ลำแสงนี้ก็จะถูกกระจายออกมาเป็นแสง 7 สี ซึ่งประกอบด้วย สีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง จากนั้นเจ้าละอองเม็ดฝนก็จะทำการสะท้อนแสงเหล่านี้ออกมากระทบกับนัยน์ตาของเรา ทำให้เราเห็นเป็นเจ้ารุ้งตัวอ้วน ลักษณะโค้งมน มีอยู่ 7 สี บางครั้งถ้าเรามองเผินๆ เราจะเห็นคล้ายกับว่ามันมีแค่ 3 สี นั่นเป็นมายากลทางธรรมชาติที่น่าสงสัยและชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเราได้ศึกษาเรื่องรุ้งมากขึ้น เราก็จะรู้ว่า รุ้งนั้นมีด้วยกันหลายแบบ แต่ที่พอจะอธิบายได้ชัดเจนก็มีอยู่ 2 แบบ คือ รุ้งปฐมภูมิ (รุ้งตัวที่ 1) และ รุ้งทุติยภูมิ (รุ้งตัวที่ 2) ถ้าด้านที่อยู่ตรงกันข้ามดวงอาทิตย์มีละอองเม็ดฝนมาก เราก็จะสามารถเห็นรุ้งทั้ง 2 ตัวนี้เคียงคู่กัน เหมือนกับว่ามันกำลังหยอกล้อกัน โดยหันด้านที่เป็นสีเหมือนกันเข้าหากัน เปรียบเหมือนกันคนที่พูดจาภาษาเดียวกัน อาจเป็นได้ทั้งเพื่อนหรือคนรัก ความโค้งของมันก็ดูเหมือนความอ่อนโยนหรือความสุภาพที่ทุกคนควรมีให้กัน สีสันที่สดสวยของมันก็เหมือนชีวิตของคนเราที่อาจมีได้ทั้งสุข ทั้งเศร้า ปนกันไปมองเห็นธรรมชาติแล้วบางครั้งก็อย่าลืมนำมาเก็บเป็นปรัชญาชีวิตของเราบ้าง เพราะตัวเราเองหนีห่างจากธรรมชาติไม่พ้น ธรรมชาติเป็นครูที่ดีของเรา เป็นเพื่อนที่เข้าใจเรา เป็นคนในครอบครัวที่พร้อมอยู่กับเราตลอดเวลา เมื่อรู้สึกตัวว่าเหงา เหว่ว้า จงคิดว่าธรรมชาตินั่นไงที่อยู่กับเราตลอด และถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ลองมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วถามว่าเธอคิดอะไรบ้าง
(ภัฑรกิจ : ถ่ายภาพ)
แนะนำเว็บไซด์ที่ให้ความรู้เรื่องรุ้ง http://funscience.gistda.or.th/rainbow/rainbow.html

22 พฤศจิกายน 2551

ครู กศน. นักสานฝันของแผ่นดิน


เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย ผู้คนที่รับฟังจะมีจินตนาการที่หลากหลายต่อจังหวัดนี้ ตัวอย่างเช่น แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองสามหมอก หมอกฤดูฝน หมอกฤดูหนาวและหมอกควันในฤดูร้อน แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองแห่งดอกบัวตองมีดอกบัวตอง หรือดอกทานตะวันป่าบานเต็มภูเขาที่สลับซับซ้อนในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม ของทุกปี แม่ฮ่องสอนเป็นดินแดนที่เดินทางยากมีถนนสูงต่ำเลี้ยวลดคดโค้งหฤโหดที่สุดของประเทศจนได้รับสมญานามเมือง 1,864 โค้ง แม่ฮ่องสอนเป็นดินแดนแห่งชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ชนเผ่าที่น่าศึกษาเรียนรู้เป็นต้น
สำหรับวันนี้ขอเขียนถึงแม่ฮ่องสอนในมุมมองของการให้โอกาสทางการศึกษาต่อมวลมนุษยชาติซึ่งดำเนินการโดย ครู กศน. นักสานฝันของแผ่นดิน สัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสมาแม่ฮ่องสอนได้รับการต้อนรับจาก กศน. แม่ฮ่องสอนอย่างดียิ่ง ท่าน ผอ. ธนิต แท่งทองคำ อนุญาตให้อาจารย์ผกาพันธุ์ แท่งทองคำ อาจารย์ต่าย และน้องศรีวิศาล จันทร์สุข น้องกิตติศักดิ์ ศรีวิโรจน์ ครู กศน. นำพาไปเยี่ยมชม การจัดการศึกษาในศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” (ศศช. “แม่ฟ้าหลวง”) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน การเดินทางต้องเดินทางโดยเรือหางยาวนั่งได้ประมาณ 8 คน ขับตามกระแสน้ำของลำน้ำปายไปประมาณ 30 นาที สองฝั่งของลำน้ำปายสวยงามและเป็นธรรมชาติอยู่มาก แม่น้ำปายไม่เชี่ยวนักในเดือนพฤศจิกายน เมื่อไปถึงบ้านห้วยปูแกง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวปลูกสร้างบ้านอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำปาย หลังคาบ้านมุงด้วยใบไม้ที่คนภาคเหนือเรียก “ใบตองตึง” ฝาบ้านเป็นฝากไม้ไผ่ พื้นบ้านปูด้วยไม้กระดานยกพื้นสูงพอนั่งห้อยขาได้สบาย ๆ มีประมาณ 30-40 หลังคาเรือน เดินผ่านบ้านเรือนไปจนสุดเขา ศศช. “แม่ฟ้าหลวง” อยู่สูงเด่นหลังคามีโซลาเชลล์ และจานรับสัญญาณติดตั้งอยู่ การจัดการศึกษาระดับประถม และระดับมัธยมอยู่คนละแห่งเพื่อไม่ให้รบกวนกัน ณ ที่แห่งนี้ได้พบกับครูเทียนชัย ทิติกัลยากร ครูของ ศศช. แม่ฟ้าหลวง ครูเทียนชัยเป็นชนเผ่าที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในระดับ ปวส. แววตาจริงจังของครูเทียนชัย แสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะให้โอกาสทางการศึกษากับเด็ก ๆ ชาวเขาทุกคน ในวันนั้นมีการเรียนการสอน 2 วิชา คือ วิชาคณิตศาสตร์ และวิชา ภาษาอังกฤษ สอนโดยอาสาสมัครรุ่นพี่ แม้จากมาเกือบเดือนแล้วเสียงเด็กกะเหรี่ยงฝึกพูดดังก้องในความทรงจำ เมื่อเขาออกเสียงภาษาอังกฤษประโยคหนึ่งว่า “who are you????”
ขอส่งกำลังใจมาให้ครู กศน. ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ในป่าเขาลำเนาไพร เกาะแก่งทุกแห่งหน ขอให้ท่านเป็นนักสานฝันของแผ่นดินที่ให้โอกาสทางการศึกษาไม่เลือกชาติพันธุ์ชนชั้น กับมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ให้สมกับเป็นเพชรเม็ดงามที่ กศน. ภาคภูมิใจตลอดไป

19 พฤศจิกายน 2551

ค่ายวิทยาศาสตร์

ศูนย์วิทย์ฯ สระแก้วจัดกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ตามโครงการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา “การเข้าค่ายวิทยาศาสตร์” โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 175 คน จากโรงเรียนบ้านวังบูรพา และ โรงเรียนบ้านหนองผักหนาม สังกัด สพท.สระแก้ว เขต 1 ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. 2551

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2551 ชาวศูนย์วิทย์ฯ สระแก้ว ได้เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและถวายดอกไม้จันทน์
เนื่องในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ณ วัดสระแก้ว พระอารามหลวง อ.เมือง จ.สระแก้ว


11 พฤศจิกายน 2551

วัดหลวงพ่อพระพุทธโสธร


วัดหลวงพ่อพระพุทธโสธรปีนี้
กศน.ฉะเชิงเทรา และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว ระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรและนิทรรศการวิทยาศาสตร์นิทรรศการอาชีพ เพื่อเติมเต็มกระบวนการเรียนรู้ให้กับประชาชนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อพระพุทธโสธร ในงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรและงานกาชาด ระหว่างวันที่ ๓ – ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ประชาชนให้ความสนใจทุกเรื่องที่จัดแสดงนิทรรศการ โดยเฉพาะภาคกลางคืน ตัวอย่างเช่น
· การดูดาว
· เครื่องมือทดลองวิทยาศาสตร์ต่างๆ
· เกมส์วิทยาศาสตร์
· ดอกไม้ประดิษฐ์
· นวดแผนโบราณ
· เตาเผาถ่านน้ำส้มควันไม้
คาดว่ามีประชาชนร่วมเรียนรู้หลายหมื่นคนในงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรในปีนี้